1จงดูเถิด พระบิดาทรงโปรดประทานความรักแก่เราทั้งหลายเพียงไร ที่เราจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า เหตุที่โลกไม่รู้จักเราทั้งหลาย ก็เพราะเขาไม่รู้จักพระองค์stylusยอห์น 1:12, ยอห์น 1:12, กาลาเทีย 3:26, กาลาเทีย 3:26, กาลาเทีย 4:52ท่านที่รักทั้งหลาย บัดนี้เราทั้งหลายเป็นบุตรของพระเจ้า และยังไม่ปรากฏว่าต่อไปเบื้องหน้าเราจะเป็นอย่างไร แต่เรารู้ว่าเมื่อพระองค์เสด็จมาปรากฏนั้น เราทั้งหลายจะเป็นเหมือนพระองค์ เพราะว่าเราจะเห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็นอยู่นั้นstylusฟีลิปปี 3:21, ฟีลิปปี 3:21, โคโลสี 3:4, โคโลสี 3:4, 1 โครินธ์ 13:123และทุกคนที่มีความหวังเช่นนี้ในพระองค์ ก็ย่อมชำระตนให้บริสุทธิ์เหมือนอย่างที่พระองค์ทรงบริสุทธิ์stylus2 โครินธ์ 7:1, 2 โครินธ์ 7:1, 1 ยอห์น 2:6, 1 ยอห์น 2:6, 2 เปโตร 3:144ผู้ใดที่กระทำบาปก็ละเมิดพระราชบัญญัติด้วย เพราะความบาปเป็นสิ่งที่ละเมิดพระราชบัญญัติstylus1 ยอห์น 5:17, 1 ยอห์น 5:17, โรม 3:20, โรม 3:20, โรม 4:155ท่านทั้งหลายก็รู้อยู่แล้วว่า พระองค์ได้ทรงปรากฏเพื่อนำบาปทั้งหลายของเราไปเสีย และบาปในพระองค์ไม่มีเลยstylus2 โครินธ์ 5:21, 2 โครินธ์ 5:21, ฮีบรู 9:28, ฮีบรู 9:28, 1 เปโตร 3:186คนใดที่อาศัยอยู่ในพระองค์ คนนั้นไม่กระทำบาป ผู้ใดที่กระทำบาป ผู้นั้นยังไม่ได้เห็นพระองค์ และยังไม่ได้รู้จักพระองค์stylus3 ยอห์น 1:11, 3 ยอห์น 1:11, 1 ยอห์น 3:9, 1 ยอห์น 2:4, 1 ยอห์น 3:97ลูกเล็กๆทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้ใครชักจูงท่านให้หลง ผู้ที่ประพฤติการชอบธรรมก็เป็นผู้ชอบธรรม เหมือนอย่างพระองค์ทรงเป็นผู้ชอบธรรมstylus1 ยอห์น 2:29, 1 เปโตร 1:15, 1 เปโตร 1:16, โรม 2:13, 1 ยอห์น 2:298ผู้ที่กระทำบาปก็มาจากพญามาร เพราะว่าพญามารได้กระทำบาปตั้งแต่เริ่มแรก พระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาปรากฏก็เพราะเหตุนี้ คือเพื่อทรงทำลายกิจการของพญามารเสียstylusฮีบรู 2:14, ฮีบรู 2:14, ยอห์น 8:44, ยอห์น 8:44, โคโลสี 2:159ผู้ใดบังเกิดจากพระเจ้า ผู้นั้นไม่กระทำบาป เพราะเมล็ดของพระองค์ดำรงอยู่ในผู้นั้น และเขากระทำบาปไม่ได้ เพราะเขาบังเกิดจากพระเจ้าstylus1 ยอห์น 5:18, 1 ยอห์น 5:18, 1 เปโตร 1:23, 1 เปโตร 1:23, ยอห์น 1:1310ดังนี้แหละจึงเห็นได้ว่าผู้ใดเป็นบุตรของพระเจ้า และผู้ใดเป็นลูกของพญามาร คือว่าผู้ใดที่มิได้ประพฤติตามความชอบธรรม และไม่รักพี่น้องของตน ผู้นั้นก็มิได้มาจากพระเจ้าstylus1 ยอห์น 4:8, 1 ยอห์น 4:8, 3 ยอห์น 1:11, 3 ยอห์น 1:11, มัทธิว 13:3811นี่เป็นคำสั่งสอนที่ท่านทั้งหลายได้ยินมาตั้งแต่เริ่มแรก คือให้เราทั้งหลายรักซึ่งกันและกันstylusยอห์น 15:12, ยอห์น 15:12, 2 ยอห์น 1:5, 2 ยอห์น 1:5, 1 ยอห์น 4:712อย่าเป็นเหมือนคาอินที่มาจากมารร้ายนั้น และได้ฆ่าน้องชายของตนเอง และเหตุใดเขาจึงฆ่าน้องชาย ก็เพราะการกระทำของเขาชั่ว และการกระทำของน้องชายนั้นชอบธรรมstylusฮีบรู 11:4, ฮีบรู 11:4, ปฐมกาล 4:4, ปฐมกาล 4:15, ปฐมกาล 4:413พี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้าเอ๋ย อย่าประหลาดใจถ้าโลกนี้เกลียดชังท่านstylusยอห์น 15:18, ยอห์น 15:19, ยอห์น 15:18, ยอห์น 15:19, ยอห์น 17:1414เราทั้งหลายรู้ว่า เราได้พ้นจากความตายไปสู่ชีวิตแล้ว ก็เพราะเรารักพี่น้อง ผู้ใดที่ไม่รักพี่น้องของตน ผู้นั้นก็ยังอยู่ในความตายstylusยอห์น 13:35, 1 ยอห์น 5:2, ยอห์น 13:35, 1 ยอห์น 5:2, 1 ยอห์น 4:2015ผู้ใดเกลียดชังพี่น้องของตน ผู้นั้นก็เป็นฆาตกร และท่านทั้งหลายก็รู้แล้วว่า ไม่มีฆาตกรคนใดที่มีชีวิตนิรันดร์ดำรงอยู่ในเขาเลยstylusมัทธิว 5:21, มัทธิว 5:22, มัทธิว 5:21, มัทธิว 5:22, สุภาษิต 26:2416ดังนี้แหละเราจึงรู้จักความรักของพระเจ้า เพราะว่าพระองค์ได้ทรงยอมปล่อยวางชีวิตของพระองค์เพื่อเราทั้งหลาย และเราทั้งหลายก็ควรจะปล่อยวางชีวิตของเราเพื่อพี่น้องstylus1 ยอห์น 4:9, 1 ยอห์น 4:11, 1 ยอห์น 4:9, 1 ยอห์น 4:11, เอเฟซัส 5:217แต่ถ้าผู้ใดมีทรัพย์สมบัติในโลกนี้ และเห็นพี่น้องของตนขัดสน และยังใจจืดใจดำไม่สงเคราะห์เขา ความรักของพระเจ้าจะดำรงอยู่ในผู้นั้นอย่างไรได้stylusฮีบรู 13:16, ฮีบรู 13:16, เฉลยธรรมบัญญัติ 15:7, เฉลยธรรมบัญญัติ 15:11, เฉลยธรรมบัญญัติ 15:718ลูกเล็กๆทั้งหลายของข้าพเจ้าเอ๋ย อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยลิ้นเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริงstylusยากอบ 2:15, ยากอบ 2:16, ยากอบ 2:15, ยากอบ 2:16, โรม 12:919และโดยเหตุนี้เราจึงรู้ว่าเราอยู่ฝ่ายความจริง และจะได้ตั้งใจของเราให้แน่วแน่จำเพาะพระองค์stylusฮีบรู 10:22, ฮีบรู 10:22, อิสยาห์ 32:17, 1 ยอห์น 3:21, ฮีบรู 6:1020เพราะถ้าใจของเรากล่าวโทษตัวเรา พระเจ้าทรงเป็นใหญ่กว่าใจของเรา และพระองค์ทรงทราบทุกสิ่งstylusสดุดี 139:1, สดุดี 139:4, สดุดี 139:1, สดุดี 139:4, เยเรมีย์ 17:1021ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าใจของเราไม่ได้กล่าวโทษเรา เราก็มีความมั่นใจจำเพาะพระเจ้าstylus1 ยอห์น 2:28, 1 ยอห์น 2:28, ฮีบรู 4:16, ฮีบรู 4:16, สดุดี 7:322และเราขอสิ่งใดก็ตามเราก็จะได้สิ่งนั้นจากพระองค์ เพราะเรารักษาพระบัญญัติของพระองค์ และปฏิบัติสิ่งเหล่านั้นซึ่งเป็นที่พอพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์stylusยอห์น 15:7, ยอห์น 15:7, ยอห์น 9:31, มัทธิว 21:22, ยอห์น 9:3123และนี่เป็นพระบัญญัติของพระองค์ คือให้เราทั้งหลายเชื่อในพระนามของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ และให้เรารักซึ่งกันและกัน ตามที่พระองค์ได้ทรงบัญญัติไว้แก่เราแล้วstylusยอห์น 13:34, ยอห์น 13:34, 1 เปโตร 1:22, ยอห์น 6:29, ยอห์น 15:1224และทุกคนที่รักษาพระบัญญัติของพระองค์ก็อยู่ในพระองค์ และพระองค์ทรงสถิตอยู่ในคนนั้น ด้วยเหตุนี้เราจึงรู้ว่าพระองค์ทรงสถิตอยู่ในเราโดยพระวิญญาณซึ่งพระองค์ได้ทรงโปรดประทานแก่เราแล้วstylus1 โครินธ์ 3:16, 1 โครินธ์ 3:16, 1 ยอห์น 4:15, 1 ยอห์น 4:16, 1 ยอห์น 4:15