1ลูกเล็กๆของข้าพเจ้าเอ๋ย ข้าพเจ้าเขียนข้อความเหล่านี้ถึงท่านทั้งหลาย เพื่อท่านจะได้ไม่ทำบาป และถ้าผู้ใดทำบาป เราก็มีพระองค์ผู้ช่วยเหลือสถิตอยู่กับพระบิดา คือพระเยซูคริสต์ผู้ทรงชอบธรรมนั้นstylus1 ทิโมธี 2:5, 1 ทิโมธี 2:5, โรม 8:34, โรม 8:34, ยอห์น 14:62และพระองค์ทรงเป็นผู้ลบล้างพระอาชญาที่ตกกับเราทั้งหลายเพราะบาปของเรา และไม่ใช่แต่บาปของเราพวกเดียว แต่บาปของมนุษย์ทั้งปวงในโลกด้วยstylus1 ยอห์น 4:14, 1 ยอห์น 4:14, 1 เปโตร 3:18, 1 เปโตร 3:18, 1 ยอห์น 4:103เราจะมั่นใจได้ว่าเรารู้จักพระองค์โดยข้อนี้ คือถ้าเรารักษาพระบัญญัติของพระองค์stylusยอห์น 14:15, ยอห์น 14:15, ยอห์น 15:10, ยอห์น 15:10, ลูกา 6:464คนใดที่กล่าวว่า “ข้าพเจ้ารู้จักพระองค์” แต่มิได้รักษาพระบัญญัติของพระองค์ คนนั้นก็เป็นคนพูดมุสา และความจริงไม่ได้อยู่ในคนนั้นเลยstylus1 ยอห์น 1:6, 1 ยอห์น 1:6, ทิตัส 1:16, ทิตัส 1:16, ยากอบ 2:145แต่ผู้ใดที่รักษาพระวจนะของพระองค์ ความรักของพระเจ้าก็สมบูรณ์อยู่ในคนนั้นอย่างแท้จริง ด้วยอาการอย่างนี้แหละเราทั้งหลายจึงรู้ว่าเราอยู่ในพระองค์stylusยอห์น 14:23, ยอห์น 14:23, ยอห์น 14:21, ยอห์น 14:21, ลูกา 11:286ผู้ใดกล่าวว่าตนอยู่ในพระองค์ ผู้นั้นก็ควรดำเนินตามทางที่พระองค์ทรงดำเนินนั้นด้วยstylus1 เปโตร 2:21, 1 เปโตร 2:21, ยอห์น 13:15, ยอห์น 13:15, 1 โครินธ์ 11:17พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ได้เขียนพระบัญญัติใหม่ถึงท่านทั้งหลาย แต่เป็นพระบัญญัติเก่าซึ่งท่านทั้งหลายได้มีอยู่ตั้งแต่เริ่มแรก พระบัญญัติเก่านั้นคือพระดำรัสซึ่งท่านทั้งหลายได้ยินตั้งแต่เริ่มแรกแล้วstylusมาระโก 12:29, มาระโก 12:34, เลวีนิติ 19:18, มาระโก 12:29, มาระโก 12:348อีกนัยหนึ่ง ข้าพเจ้าเขียนพระบัญญัติใหม่ถึงท่านทั้งหลาย และข้อความนั้นก็เป็นความจริงทั้งฝ่ายพระองค์และฝ่ายท่านทั้งหลาย เพราะว่าความมืดนั้นล่วงไปแล้ว และบัดนี้ความสว่างแท้ก็ส่องอยู่stylusเอเฟซัส 5:8, เอเฟซัส 5:8, โรม 13:12, โรม 13:12, ยอห์น 13:349ผู้ใดที่กล่าวว่าตนอยู่ในความสว่าง และยังเกลียดชังพี่น้องของตน ผู้นั้นก็ยังอยู่ในความมืดจนถึงบัดนี้stylus1 ยอห์น 4:20, 1 ยอห์น 4:20, 1 ยอห์น 2:11, 1 ยอห์น 2:11, 1 ยอห์น 3:1310ผู้ที่รักพี่น้องของตนก็อยู่ในความสว่าง และไม่มีโอกาสที่จะสะดุดสำหรับผู้นั้นเลยstylus1 ยอห์น 3:14, 1 ยอห์น 3:14, โรม 9:32, โรม 9:33, โรม 9:3211แต่ผู้ที่เกลียดชังพี่น้องของตนก็อยู่ในความมืด และเดินในความมืด และไม่รู้ว่าตนกำลังไปทางไหน เพราะว่าความมืดนั้นได้ทำให้ตาของเขาบอดไปเสียแล้วstylusยอห์น 12:35, ยอห์น 12:35, ทิตัส 3:3, ทิตัส 3:3, วิวรณ์ 3:1712ลูกเล็กๆทั้งหลายเอ๋ย ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะว่าบาปของท่านได้รับการอภัยแล้วเพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์stylusกิจการ 10:43, กิจการ 10:43, กิจการ 13:38, กิจการ 13:38, เอเฟซัส 1:713ท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านทั้งหลายได้รู้จักกับพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่เริ่มแรก ท่านทั้งหลายที่เป็นคนหนุ่มๆ ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านทั้งหลายได้ชัยชนะแก่มารร้าย ท่านทั้งหลายผู้เป็นลูกเล็กๆ ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านทั้งหลายได้รู้จักกับพระบิดาstylusยอห์น 14:7, ยอห์น 14:7, 1 ยอห์น 2:14, 1 ยอห์น 2:14, ลูกา 10:2214ท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านทั้งหลายได้รู้จักกับพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่เริ่มแรก ท่านทั้งหลายที่เป็นคนหนุ่มๆ ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านทั้งหลายมีกำลังมาก และพระวจนะของพระเจ้าดำรงอยู่ในท่านทั้งหลาย และท่านได้ชัยชนะแก่มารร้ายแล้วstylusสดุดี 119:11, สดุดี 119:11, 1 ยอห์น 2:13, 1 ยอห์น 2:13, โคโลสี 3:1615อย่ารักโลกหรือสิ่งของในโลก ถ้าผู้ใดรักโลก ความรักของพระบิดาไม่ได้อยู่ในผู้นั้นstylusยากอบ 4:4, ยากอบ 4:4, โรม 12:2, โรม 12:2, มัทธิว 6:2416เพราะว่าสารพัดซึ่งมีอยู่ในโลก คือตัณหาของเนื้อหนัง และตัณหาของตา และความเย่อหยิ่งในชีวิตไม่ได้เกิดจากพระบิดา แต่เกิดจากโลกstylusโรม 13:14, โรม 13:14, กาลาเทีย 5:17, กาลาเทีย 5:17, สดุดี 119:3617และโลกกับสิ่งยั่วยวนของโลกกำลังผ่านพ้นไป แต่ผู้ที่ประพฤติตามพระทัยของพระเจ้าก็ดำรงอยู่เป็นนิตย์stylusมัทธิว 24:35, มัทธิว 24:35, โรม 12:2, โรม 12:2, 1 โครินธ์ 7:3118ลูกเล็กๆทั้งหลายเอ๋ย บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแล้ว และตามที่ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังมาว่า ปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์จะมา บัดนี้ปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์ก็มีอยู่มากแล้ว ฉะนั้นเราจึงรู้ว่าบัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแล้วstylus1 ยอห์น 4:3, 1 ยอห์น 4:3, 2 ยอห์น 1:7, 2 ยอห์น 1:7, 1 ยอห์น 2:2219เขาเหล่านั้นได้ออกไปจากพวกเรา แต่เขาเหล่านั้นก็ไม่ใช่พวกเรา เพราะว่าถ้าเขาเป็นพวกของเรา เขาจะอยู่กับเราต่อไป แต่เขาได้ออกไปแล้ว ซึ่งก็เป็นที่ปรากฏชัดแล้วว่า เขาเหล่านั้นหาใช่พวกของเราทุกคนไม่stylusกิจการ 20:30, กิจการ 20:30, 1 โครินธ์ 11:19, 1 โครินธ์ 11:19, ยูดา 1:1920ท่านทั้งหลายได้รับการทรงเจิมจากพระองค์ผู้บริสุทธิ์แล้ว และท่านก็รู้ทุกสิ่งstylusยอห์น 14:26, ยอห์น 14:26, 1 ยอห์น 2:27, 1 ยอห์น 2:27, 2 โครินธ์ 1:2121ข้าพเจ้าเขียนมายังท่านทั้งหลายมิใช่เพราะท่านไม่รู้ความจริง แต่เพราะท่านทั้งหลายรู้แล้ว และรู้ว่าคำมุสาไม่ได้มาจากความจริงเลยstylus2 เปโตร 1:12, 2 เปโตร 1:12, ยูดา 1:5, ยูดา 1:5, สุภาษิต 1:522ใครเล่าเป็นผู้ที่พูดมุสา ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นผู้ที่ปฏิเสธว่าพระเยซูมิใช่พระคริสต์ ผู้ใดที่ปฏิเสธพระบิดาและพระบุตร ผู้นั้นแหละเป็นปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์stylus2 ยอห์น 1:7, 2 ยอห์น 1:7, 1 ยอห์น 4:3, 1 ยอห์น 4:3, 1 ยอห์น 2:1823ผู้ใดที่ปฏิเสธพระบุตร ผู้นั้นก็ไม่มีพระบิดา แต่ผู้ใดที่รับพระบุตร ผู้นั้นก็มีพระบิดาด้วยstylus1 ยอห์น 4:15, 1 ยอห์น 4:15, ยอห์น 8:19, ยอห์น 8:19, ยอห์น 10:3024เหตุฉะนั้น จงให้ข้อความที่ท่านได้ยินมาตั้งแต่ต้นนั้นดำรงอยู่กับท่านเถิด ถ้าข้อความที่ท่านได้ยินตั้งแต่ต้นนั้นดำรงอยู่กับท่าน ท่านจะตั้งมั่นคงอยู่ในพระบุตรและในพระบิดาด้วยstylusยอห์น 14:23, ยอห์น 14:23, ยอห์น 15:9, ยอห์น 15:10, ยอห์น 15:925นี่แหละเป็นพระสัญญาซึ่งพระองค์ได้ทรงสัญญาไว้แก่เรา คือชีวิตนิรันดร์นั่นเองstylusยอห์น 10:28, ยอห์น 10:28, ทิตัส 3:7, ทิตัส 3:7, ยูดา 1:2126ข้าพเจ้าเขียนข้อความนี้ถึงท่าน เกี่ยวกับคนเหล่านั้นที่ล่อลวงท่านstylus2 เปโตร 2:1, 2 เปโตร 2:3, 2 เปโตร 2:1, 2 เปโตร 2:3, 2 ยอห์น 1:727แต่การเจิมซึ่งท่านทั้งหลายได้รับจากพระองค์นั้นดำรงอยู่กับท่าน และท่านไม่จำเป็นต้องให้ใครมาสอนท่านทั้งหลาย เพราะว่าการเจิมนั้นสอนท่านให้รู้ทุกสิ่ง และเป็นความจริง ไม่ใช่ความเท็จ การเจิมนั้นได้สอนท่านทั้งหลายมาแล้วอย่างไร ท่านก็จงตั้งมั่นคงอยู่ในพระองค์อย่างนั้นstylusยอห์น 14:26, ยอห์น 14:26, 1 ยอห์น 2:20, 1 ยอห์น 2:21, 1 ยอห์น 2:2028และบัดนี้ลูกเล็กๆทั้งหลายเอ๋ย จงดำรงอยู่ในพระองค์ เพื่อว่าเมื่อพระองค์ทรงมาปรากฏ เราทั้งหลายจะได้มีใจกล้า และไม่มีความละอายจำเพาะพระองค์เมื่อพระองค์เสด็จมาstylus1 ยอห์น 4:17, 1 ยอห์น 4:17, มาระโก 8:38, มาระโก 8:38, 1 ยอห์น 3:229ถ้าท่านทั้งหลายรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ชอบธรรม ท่านก็รู้ว่าทุกคนที่ประพฤติตามความชอบธรรมก็บังเกิดจากพระองค์ด้วยstylusยอห์น 3:3, ยอห์น 3:5, ยอห์น 3:3, ยอห์น 3:5, 1 ยอห์น 3:7