1เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงละการปองร้ายทั้งปวง บรรดาการอุบาย การหน้าซื่อใจคด ความอิจฉาริษยา และคำพูดส่อเสียดทั้งหลายstylusเอเฟซัส 4:31, เอเฟซัส 4:31, ยากอบ 1:21, ยากอบ 1:21, ยากอบ 4:112เช่นเดียวกับทารกแรกเกิด จงปรารถนาน้ำนมอันบริสุทธิ์แห่งพระวจนะ เพื่อจะทำให้ท่านทั้งหลายเติบโตขึ้นstylusฮีบรู 5:12, ฮีบรู 5:13, ฮีบรู 5:12, ฮีบรู 5:13, เอเฟซัส 4:153หากว่าท่านได้ชิมดูรู้แล้วว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าประกอบด้วยพระกรุณาstylusสดุดี 34:8, สดุดี 34:8, ฮีบรู 6:5, ฮีบรู 6:6, ฮีบรู 6:54จงมาหาพระองค์ เหมือนมาถึงศิลาอันมีชีวิตอยู่ ซึ่งมนุษย์ได้ปฏิเสธไม่ยอมรับแล้ว แต่ว่าพระเจ้าทรงเลือกไว้ และทรงค่าอันประเสริฐstylusสดุดี 118:22, สดุดี 118:23, สดุดี 118:22, สดุดี 118:23, กิจการ 4:115และท่านทั้งหลายก็เสมือนศิลาที่มีชีวิต ที่กำลังก่อขึ้นเป็นพระนิเวศฝ่ายวิญญาณ เป็นปุโรหิตบริสุทธิ์ เพื่อถวายสักการบูชาฝ่ายจิตวิญญาณ ที่ชอบพระทัยของพระเจ้าโดยทางพระเยซูคริสต์stylusเอเฟซัส 2:20, เอเฟซัส 2:22, เอเฟซัส 2:20, เอเฟซัส 2:22, 1 เปโตร 2:96เพราะมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ด้วยว่า ‘ดูเถิด เราวางศิลาก้อนหนึ่งลงในศิโยน เป็นศิลามุมเอกที่ทรงเลือกแล้ว และเป็นศิลาที่มีค่าอันประเสริฐ และผู้ใดที่เชื่อในพระองค์นั้นก็จะไม่ได้รับความอับอาย’stylusอิสยาห์ 28:16, อิสยาห์ 28:16, โรม 9:32, โรม 9:33, โรม 9:327เหตุฉะนั้นพระองค์ทรงมีค่าอันประเสริฐสำหรับท่านทั้งหลายที่เชื่อ แต่สำหรับคนทั้งหลายที่ไม่เชื่อฟังนั้น ‘ศิลาซึ่งช่างก่อได้ปฏิเสธเสีย ได้กลับกลายเป็นศิลามุมเอกแล้ว’stylusสดุดี 118:22, สดุดี 118:23, สดุดี 118:22, สดุดี 118:23, กิจการ 4:118และ ‘เป็นศิลาที่ทำให้สะดุด และเป็นก้อนหินที่ทำให้ขุ่นเคืองใจ’ ที่เขาสะดุดนั้นเพราะเขาไม่เชื่อฟังพระวจนะ ตามที่เขาถูกกำหนดไว้เช่นนั้นด้วยstylusอิสยาห์ 8:14, อิสยาห์ 8:14, 1 โครินธ์ 1:23, 1 โครินธ์ 1:23, โรม 9:329แต่ท่านทั้งหลายเป็นชาติที่พระองค์ทรงเลือกไว้แล้ว เป็นพวกปุโรหิตหลวง เป็นประชาชาติบริสุทธิ์ เป็นชนชาติของพระองค์โดยเฉพาะ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้สำแดงพระบารมีของพระองค์ ผู้ได้ทรงเรียกท่านทั้งหลายให้ออกมาจากความมืด เข้าไปสู่ความสว่างอันมหัศจรรย์ของพระองค์stylusอพยพ 19:5, อพยพ 19:6, อพยพ 19:5, อพยพ 19:6, เฉลยธรรมบัญญัติ 7:610เมื่อก่อนท่านทั้งหลายหาเป็นชนชาติไม่ แต่บัดนี้ท่านเป็นชนชาติของพระเจ้าแล้ว เมื่อก่อนท่านทั้งหลายหาได้รับพระกรุณาไม่ แต่บัดนี้ท่านได้รับพระกรุณาแล้วstylusโฮเชยา 2:23, โฮเชยา 2:23, โฮเชยา 1:9, โฮเชยา 1:10, ฮีบรู 4:1611พวกที่รัก ข้าพเจ้าวิงวอนท่านทั้งหลายเหมือนท่านเป็นคนต่างด้าวและเป็นผู้สัญจร ให้ท่านละเว้นจากตัณหาของเนื้อหนัง ซึ่งทำศึกกับจิตวิญญาณstylus1 ยอห์น 2:15, 1 ยอห์น 2:17, 1 ยอห์น 2:15, 1 ยอห์น 2:17, กาลาเทีย 5:2412จงให้การประพฤติของท่านทั้งหลายเป็นที่น่านับถือท่ามกลางคนต่างชาตินั้น เพื่อว่าในข้อที่เขาติเตียนท่านว่าเป็นคนทำชั่วนั้น เมื่อเขาเห็นการดีของท่านแล้ว เขาจะได้สรรเสริญพระเจ้าในวันซึ่งพระองค์จะทรงเยี่ยมเยียนเขาstylus1 เปโตร 3:16, 1 เปโตร 3:16, มัทธิว 5:16, มัทธิว 5:16, ทิตัส 2:713ท่านทั้งหลายจงยอมฟังการบังคับบัญชาที่มนุษย์ตั้งไว้ทุกอย่าง เพราะเห็นแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าผู้นั้นเป็นกษัตริย์ผู้มีอำนาจยิ่งstylusทิตัส 3:1, ทิตัส 3:1, โรม 13:1, โรม 13:7, โรม 13:114หรือจะเป็นเจ้าเมืองผู้ที่ได้รับคำสั่งจากกษัตริย์นั้น ให้ลงโทษผู้กระทำชั่ว และยกย่องคนที่ประพฤติดีstylusโรม 13:3, โรม 13:4, โรม 13:3, โรม 13:415เพราะเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ที่จะให้ท่านทั้งหลายระงับความโง่ของคนโฉดเขลาให้สงบด้วยการประพฤติดีstylus1 เปโตร 3:17, 1 เปโตร 3:17, ทิตัส 2:8, ทิตัส 2:8, มัทธิว 7:2616จงเป็นเหมือนคนที่มีเสรีภาพ แต่ท่านอย่าใช้เสรีภาพนั้นให้เป็นที่ปกปิดความชั่วไว้ แต่จงใช้เหมือนเป็นทาสของพระเจ้าstylusกาลาเทีย 5:13, กาลาเทีย 5:13, โรม 6:22, โรม 6:22, โรม 6:1817จงให้เกียรติแก่ทุกคน จงรักบรรดาพี่น้อง จงยำเกรงพระเจ้า จงถวายเกียรติแด่กษัตริย์stylusสุภาษิต 24:21, สุภาษิต 24:21, โรม 12:10, โรม 12:10, โรม 13:718ท่านทั้งหลายที่เป็นผู้รับใช้ จงเชื่อฟังนายของท่านด้วยความยำเกรงทุกอย่าง ไม่ใช่เฉพาะนายที่เป็นคนใจดีและสุภาพเท่านั้น แต่ทั้งนายที่ร้ายด้วยstylusทิตัส 2:9, ทิตัส 2:10, ทิตัส 2:9, ทิตัส 2:10, โคโลสี 3:2219ด้วยว่าถ้าผู้ใด เพราะเห็นแก่ใจวินิจฉัยผิดชอบจำเพาะพระเจ้า ยอมอดทนต่อความทุกข์โศกเศร้าอย่างไม่ยุติธรรม นี่แหละเป็นความชอบstylusมัทธิว 5:10, มัทธิว 5:12, มัทธิว 5:10, มัทธิว 5:12, 1 โครินธ์ 15:1020ด้วยว่าถ้าท่านทำการชั่ว แล้วถูกเฆี่ยนเพราะการชั่วนั้น แม้ท่านทนถูกเฆี่ยนด้วยอดกลั้นใจ จะเป็นที่สรรเสริญอะไรแก่ท่าน แต่ว่าถ้าท่านทั้งหลายกระทำการดี และทนเอาการข่มเหงด้วยอดกลั้นใจเพราะการดีนั้น เช่นนี้แหละเป็นการชอบพระทัยพระเจ้าstylus1 เปโตร 2:19, 1 เปโตร 2:19, 1 เปโตร 3:17, 1 เปโตร 3:17, 1 เปโตร 3:1421ด้วยว่าท่านทั้งหลายทรงถูกเรียกไว้สำหรับเหตุการณ์นั้น เพราะว่าพระคริสต์ได้ทรงรับทนทุกข์ทรมานเพื่อเราทั้งหลาย ให้เป็นแบบอย่างแก่เรา เพื่อท่านจะได้ตามรอยพระบาทของพระองค์stylus1 ยอห์น 2:6, 1 ยอห์น 2:6, มัทธิว 16:24, มัทธิว 16:24, ยอห์น 13:1522พระองค์ไม่ได้ทรงกระทำบาปเลย และไม่ได้พบอุบายในพระโอษฐ์ของพระองค์เลยstylusอิสยาห์ 53:9, อิสยาห์ 53:9, 2 โครินธ์ 5:21, ฮีบรู 4:15, 2 โครินธ์ 5:2123เมื่อเขากล่าวคำหยาบคายต่อพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทรงกล่าวตอบเขาด้วยคำหยาบคายเลย เมื่อพระองค์ทรงทนทุกข์ พระองค์ไม่ได้ทรงมาดร้าย แต่ทรงมอบเรื่องของพระองค์ไว้แด่พระเจ้าผู้ทรงพิพากษาอย่างชอบธรรมstylusอิสยาห์ 53:7, อิสยาห์ 53:7, 1 เปโตร 4:19, 1 เปโตร 4:19, ฮีบรู 12:324พระองค์เองได้ทรงรับแบกบาปของเราไว้ในพระกายของพระองค์ที่ต้นไม้นั้น เพื่อว่าเราทั้งหลายซึ่งตายจากบาปแล้ว จะได้ดำเนินชีวิตตามความชอบธรรม ด้วยรอยเฆี่ยนของพระองค์ ท่านทั้งหลายจึงได้รับการรักษาให้หายstylusอิสยาห์ 53:4, อิสยาห์ 53:6, อิสยาห์ 53:4, อิสยาห์ 53:6, มัทธิว 8:1725เพราะว่าท่านทั้งหลายเป็นเหมือนแกะที่พลัดฝูงไป แต่บัดนี้ได้กลับมาหาพระผู้เลี้ยง และผู้ดูแลแห่งจิตวิญญาณของท่านทั้งหลายแล้วstylusอิสยาห์ 53:6, อิสยาห์ 53:6, เอเสเคียล 34:6, เอเสเคียล 34:6, ลูกา 15:4